@rramells:

𐙚rams
𐙚rams
Open In TikTok:
Region: ID
Wednesday 27 March 2024 19:51:10 GMT
222917
12942
187
3340

Music

Download

Comments

meaiga7
meaiga7 :
bisa nya nembus uluh hati
2025-10-01 11:25:34
0
astrinh21
Astri.NH :
kayak "hah, ini gilaak si"🙏
2025-09-16 07:30:05
1
enaysukakopi
enayyyy :
sampe ga nyangka lohhh 🙏
2025-09-11 10:58:51
5
anakdeltu
anakdeltu :
lagi di fase ini, teman anj
2025-08-02 06:36:55
10
dheanmonmon20
Dhean.20 :
Serem bgt asli yg bgni🙂
2025-09-20 16:39:04
0
__arcipp.jpg
D :
WKWKWKWK
2025-08-07 18:38:01
2
trywahyuni27573
Try Wahyuni :
rasanya kok sakit banget ya.
2024-09-24 08:14:53
50
zahwa_syi
حسنل ختمه :
😭😭 terima kasih untuk swmuanyaaaaa
2025-09-04 13:49:21
2
annsaclne
cel :
tapi masih temenan🤭
2025-07-18 14:41:05
0
gjeewww
yhaaa :
aku🐍🐍
2025-02-02 12:14:56
0
gianoooo21
Rezgiangian🙌🔥 :
Ular dari segala ular 🤣
2024-10-10 18:15:02
1
rtylynt
rita yuliyanti :
mana setiap nyakitin aku selalu nganggepnya hala bercanda kali sampe akhirnya gong itu, astaghfirullah
2025-08-20 14:39:22
0
lii_21.10
Auliaa :
Hhh
2025-01-29 11:55:37
0
bacotbaciy5
Khansaaaa 💃🏻💃🏻💃🏻 :
Minimal sekali seumur hidup lo temenan sama orang yg lo anggap kaya saudara sendiri tapi teryata ULARR paling berbisa yh sangat berbahaya 🐍🐍🐍🐍
2025-02-24 01:52:06
9
syerentitaley7
S :
SAKIT BANGET ANJ.
2025-05-17 11:26:23
2
shellomars
imnagita :
Di ularin sama temen yang udah 13 taun🤣
2024-09-12 18:47:57
9
ayumi__390
ayumiputry__ :
bayangin sakitnya temenan dari kecil udah di anggap sodara sendiri tapi nyata nya dia sering jalan sama pacar aku🥺
2025-07-27 04:12:28
0
s4tvnelz_5
wawa :
gila sakit banget pas udh tau sifat aslinya
2024-12-20 14:29:40
1
oneshoot.s.kep.ns.m.kep
oneshoot.s.kep.ns.m.kep :
semuanyaa ularrr,jadinya jgn pernah cerita apapun ke oranggg atau siapapun pendam sendiri ajaaa biar ga nyeselll
2025-08-21 03:35:56
0
ma.yan.ti2
Ma Yan Ti :
gilaaa sakitnya luar biasaa
2025-06-21 02:04:28
0
meykedwi19
meykedwi19 :
sampai gak nyangka tp emng itu fakta nya , orang yang kita percya tpi jdi musuh terbesar
2024-10-27 01:56:01
18
liaaaa831
urlove.liaa :
ular dari segala ular, walaupun udah bbrpa tahun lalu tapi sakit sama trauma kebawa sampe skrg😌 dan setiap liat mukanya selalu menyalahkan diri sendri dengan dalih kalo aja dulu aku gaa kenalin dia, kalo aja akuu gaa terlalu baik, aku kurang apa?aku salah apa yaa? dan pertanyaan² yang terus berputar di otakku😌
2025-05-18 16:24:54
1
nhonamaniezzz
nhonamanizzz :
cuma bisa bilang dalam hati hah ini beneran gua di giniin 😂
2025-01-13 22:31:59
2
telurseparohmasak30
A :
Sereeem ah
2025-01-13 14:35:54
0
_tiaaaww05
ChyntiaSafitri :
dak benci tapi buat sahabatan lagi maaf gadulu🙏😌
2024-08-19 13:32:22
3
To see more videos from user @rramells, please go to the Tikwm homepage.

Other Videos

รมว.กต.โต้ฝ่ายค้านไม่ประสานเพื่อนบ้านแก้ฝุ่น PM2.5 - แจงยิบ! จับมือไทย-ลาว-เมียนมา เปิดยุทธศาสตร์ฟ้าใสตั้งแต่ ต.ค.ปีที่แล้ว พร้อมใช้เวทีระหว่างประเทศระดมความร่วมมือสลายฝุ่น PM2.5 ตลอดปี 2567 /// นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลุกขึ้นชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังนายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน ระบุถึงกรณีที่รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับการผลักดันความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ทั้งในภูมิภาคอาเซียน และภูมิภาคอื่นที่เป็นต้นเหตุการเกิดฝุ่น PM2.5 โดยยืนยันว่า ที่ผ่านมา รัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม, กระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย ผลักดันแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อป้องกัน และแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนภายใต้ “ยุทธศาสตร์ฟ้าใส” ระหว่างไทย, สปป.ลาว และเมียนมา ตั้งแต่ตุลาคม 2567 และความร่วมมือในกรอบอาเซียน ในการแก้ไขปัญหา PM2.5 รวมทั้งผลักดันความร่วมมือกับประเทศคู่เจรจาของอาเซียนทั้ง จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา และแคนาดาอย่างเข็มข้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังชี้แจงว่า การดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใสนั้น รัฐบาลได้เปิดแผนปฏิบัติการร่วมภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใสที่กรุงเทพฯ โดยมีรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องของไทย, สปป.ลาว และเมียนมาเข้าร่วมเพื่อแก้ไขปัญหา และกำหนดแนวทางความร่วมมือระหว่างทั้ง 3 ประเทศในการแก้ไข PM2.5 ข้ามแดนอย่างยั่งยืน เช่น การจัดทำแผนที่พื้นที่เสี่ยง, การเกิดไฟป่า, การเปิดสายด่วน และการจัดตั้งกลไกเฝ้าระวังและติดตามหมอกควันข้ามแดนระหว่างทั้ง 3 ประเทศ รวมถึงยังอยู่ระหว่างการเตรียมจัดโครงการส่งเสริมความร่วมมือด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยีกับประเทศคู่เจรจาที่มีความเชี่ยวชาญในการแก้ปัญหาดังกล่าว และในเดือนเมษายนนี้ ไทยจะเป็นเจ้าภาพประชุม Joint Task Force เพื่อระดมความร่วมมือในการแก้ปัญหาด้วย  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังชี้แจงฝ่ายค้านถึงการดำเนินการแก้ไขฝุ่น PM2.5 ในกรอบความร่วมมืออาเซียนว่า รัฐบาลได้ดำเนินการผ่านกรอบการประชุมสุดยอดอาเซียนที่เวียงจันทน์ และการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการที่เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา รวมถึงยังจัดงานสัมมนาแนวทางการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนในภูมิภาคอาเซียน โดยได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากจีน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไทย องค์การอนามัยโลก ธนาคารโลก และองค์กร         ความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมนี (GIZ) และศูนย์เตรียมความพร้อมภัยพิบัติแห่งเอเชีย (ADPC) มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาหมอกควันในประเทศต่าง ๆ พร้อมทั้งผลักดันความร่วมมือผ่านกรอบการประชุมประเทศภาคีข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ซึ่งมีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลัก เพื่อให้มีความเป็นรูปธรรม  ส่วนการดำเนินการในกรอบของทวิภาคีนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมกับประเทศพัฒนาแล้วอาทิเช่น สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ให้ความช่วยเหลือโครงการความร่วมมือไตรภาคีเพื่อเพิ่มศักยภาพเจ้าหน้าที่ สปป. ลาว เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน ระยะเวลา 3 ปี เมื่อเดือนมกราคม 2567 เพื่อฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ การกำหนดนโยบายและวางมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน และการใช้ประโยชน์ จากข้อมูลดาวเทียมนานาชาติ รวมถึงยังได้ประชุมร่วมกับกัมพูชา เมื่อ 8 มีนาคม 2567 โดยไทยได้เสนอจัดตั้งช่องทางการสื่อสาร เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ จำนวนจุดความร้อน และความร่วมมือในการดับไฟ ซึ่งล่าสุด ทั้ง 2 ฝ่ายยังเตรียมลงนามจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสิ่งแวดล้อม ราชอาณาจักรกัมพูชา กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทยในห้วงการเดินทางเยือนของนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ 23-24 เมษายนนี้ด้วย  //////////
รมว.กต.โต้ฝ่ายค้านไม่ประสานเพื่อนบ้านแก้ฝุ่น PM2.5 - แจงยิบ! จับมือไทย-ลาว-เมียนมา เปิดยุทธศาสตร์ฟ้าใสตั้งแต่ ต.ค.ปีที่แล้ว พร้อมใช้เวทีระหว่างประเทศระดมความร่วมมือสลายฝุ่น PM2.5 ตลอดปี 2567 /// นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ลุกขึ้นชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังนายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน ระบุถึงกรณีที่รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับการผลักดันความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ทั้งในภูมิภาคอาเซียน และภูมิภาคอื่นที่เป็นต้นเหตุการเกิดฝุ่น PM2.5 โดยยืนยันว่า ที่ผ่านมา รัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม, กระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย ผลักดันแผนปฏิบัติการร่วมเพื่อป้องกัน และแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนภายใต้ “ยุทธศาสตร์ฟ้าใส” ระหว่างไทย, สปป.ลาว และเมียนมา ตั้งแต่ตุลาคม 2567 และความร่วมมือในกรอบอาเซียน ในการแก้ไขปัญหา PM2.5 รวมทั้งผลักดันความร่วมมือกับประเทศคู่เจรจาของอาเซียนทั้ง จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐอเมริกา และแคนาดาอย่างเข็มข้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังชี้แจงว่า การดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใสนั้น รัฐบาลได้เปิดแผนปฏิบัติการร่วมภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใสที่กรุงเทพฯ โดยมีรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องของไทย, สปป.ลาว และเมียนมาเข้าร่วมเพื่อแก้ไขปัญหา และกำหนดแนวทางความร่วมมือระหว่างทั้ง 3 ประเทศในการแก้ไข PM2.5 ข้ามแดนอย่างยั่งยืน เช่น การจัดทำแผนที่พื้นที่เสี่ยง, การเกิดไฟป่า, การเปิดสายด่วน และการจัดตั้งกลไกเฝ้าระวังและติดตามหมอกควันข้ามแดนระหว่างทั้ง 3 ประเทศ รวมถึงยังอยู่ระหว่างการเตรียมจัดโครงการส่งเสริมความร่วมมือด้านนวัตกรรม และเทคโนโลยีกับประเทศคู่เจรจาที่มีความเชี่ยวชาญในการแก้ปัญหาดังกล่าว และในเดือนเมษายนนี้ ไทยจะเป็นเจ้าภาพประชุม Joint Task Force เพื่อระดมความร่วมมือในการแก้ปัญหาด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังชี้แจงฝ่ายค้านถึงการดำเนินการแก้ไขฝุ่น PM2.5 ในกรอบความร่วมมืออาเซียนว่า รัฐบาลได้ดำเนินการผ่านกรอบการประชุมสุดยอดอาเซียนที่เวียงจันทน์ และการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการที่เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา รวมถึงยังจัดงานสัมมนาแนวทางการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนในภูมิภาคอาเซียน โดยได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากจีน สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไทย องค์การอนามัยโลก ธนาคารโลก และองค์กร ความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมนี (GIZ) และศูนย์เตรียมความพร้อมภัยพิบัติแห่งเอเชีย (ADPC) มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาหมอกควันในประเทศต่าง ๆ พร้อมทั้งผลักดันความร่วมมือผ่านกรอบการประชุมประเทศภาคีข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ซึ่งมีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลัก เพื่อให้มีความเป็นรูปธรรม ส่วนการดำเนินการในกรอบของทวิภาคีนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมกับประเทศพัฒนาแล้วอาทิเช่น สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ให้ความช่วยเหลือโครงการความร่วมมือไตรภาคีเพื่อเพิ่มศักยภาพเจ้าหน้าที่ สปป. ลาว เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน ระยะเวลา 3 ปี เมื่อเดือนมกราคม 2567 เพื่อฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ การกำหนดนโยบายและวางมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน และการใช้ประโยชน์ จากข้อมูลดาวเทียมนานาชาติ รวมถึงยังได้ประชุมร่วมกับกัมพูชา เมื่อ 8 มีนาคม 2567 โดยไทยได้เสนอจัดตั้งช่องทางการสื่อสาร เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ จำนวนจุดความร้อน และความร่วมมือในการดับไฟ ซึ่งล่าสุด ทั้ง 2 ฝ่ายยังเตรียมลงนามจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสิ่งแวดล้อม ราชอาณาจักรกัมพูชา กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของไทยในห้วงการเดินทางเยือนของนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ 23-24 เมษายนนี้ด้วย //////////

About