@gvasquez164:

G'vasqueZ
G'vasqueZ
Open In TikTok:
Region: PE
Tuesday 21 May 2024 12:18:12 GMT
1653
32
0
6

Music

Download

Comments

There are no more comments for this video.
To see more videos from user @gvasquez164, please go to the Tikwm homepage.

Other Videos

เบลล่า - ราณี แคมเปน นางเอกลูกครึ่ง ผู้สู้ชีวิตเพื่อคนในครอบครัว (ตอนที่ 2)  ระหว่างที่ เบลล่า - ราณี แคมเปน เรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 ครอบครัวแคมเปน ก็ยังอยู่ดี มีความสุข โรงเรียนสอนภาษาของคุณพ่อเบลล่าก็ยังไปได้ด้วยดี กระทั่งมาตอนที่เบลล่าเรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก็เกิดเหตุประเทศไทยเข้าสู่วิกฤตการณ์ฟองสบู่ เศรษฐกิจถดถอย ธุรกิจต่างๆในประเทศไทยทยอยปิดตัวลง จากกำลังซื้อขาดสภาพคล่อง   ผลกระทบตรงนี้ ส่งมาถึงโรงเรียนสอนภาษาของคุณพ่อเบลล่าด้วย ที่ไม่มีนักเรียนมาเรียน ทำให้ครอบครัวแคมเปน ขาดสภาพคล่อง  คุณแม่ของเบลล่าต้องออกไปทำงานเป็นแม่บ้านเพื่อหาเงินเข้าบ้าน จากที่มีกินมีใช้ ทุกอย่างกลับปรับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เบลล่าได้เห็นใบหน้าที่เคร่งเคลียดของพ่อและแม่ กับค่าใช้จ่ายที่มากกว่ารายรับ ครอบครัวต้องมัธยัสถ์ เบลล่าเห็นแบบนั้นเลยตัดสินใจว่าจะไปหางานพาร์ทไทม์ ทำในช่วงเว้นว่างจากการเรียน และช่วงวันหยุดกับช่วงปิดเทอม เบลล่าหารายได้ส่วนหนึ่งจะมาช่วยทางบ้าน แต่แม่ก็ให้เบลล่าเก็บเงินไว้ใช้จ่ายเอง แม้เงินที่ได้มาจากการทำงาน เบลล่าจะไม่ได้จุนเจือทางบ้านมากนัก เพราะคุณแม่ให้เบลล่าเก็บไว้ใช้ส่วนตัวเอง การมีเงินเป็นของตัวเอง ก็เป็นส่วนที่ช่วยทางบ้าน คือพ่อแม่ก็ไม่ต้องลำบากกับการหาเงินมาให้ลูกเป็นค่าใช้จ่าย ในการไปโรงเรียน หรือซื้ออุปกรณ์การเรียน เบลล่าไปทำงานเสิร์ฟอาหารที่ในห้างสรรพสินค้า ไปทำงานที่ร้านอาหารซเวนเซ่น ซึ่งเป็นร้านขายไอศกรีม   ต่อมาเมื่อเรียนจบจากโรงเรียนสารวิทยา เบลล่า - ราณี แคมเปน ก็เรียนต่อในระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ในคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ภาควิชา วิทยุและโทรทัศน์  เบลล่ายังคงเรียนไปทำงานไป เพราะช่วงที่อยู่ในมหาวิทยาลัย เบลล่าเป็นดรัมเมเยอร์ของทางมหาวิทยาลัย เงินจากการทำงานเบลล่าก็ได้นำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการตัดชุดดรัมเมเยอร์ อีกทั้งเบลล่ายังเอาเงินที่ได้จากการทำงาน มาดูแลตัวเอง โดยเบลล่าหวังว่าจะสามารถต่อยอดการทำงาน ได้ทำงานในสายบันเทิง เพื่อเพิ่มรายได้มาช่วยทางบ้านมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่  แล้วสิ่งที่เบลล่าคาดหวังก็เกิดผลเอาในตอนที่เบลล่าเรียนปีสอง ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อเบลล่าได้มีโอกาสไปแคสงานถ่ายโฆษณา แล้วได้เล่นโฆษณา   งานแรกๆของเบลล่า คืองานโฆษณา จากงานโฆษณาที่ออกไป  พอดีกับตอนนั้นทางผู้ใหญ่ของทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้เห็นก็เลยติดต่อให้เบลล่ามาลองแคสดู  เบลล่าไปแคสติ้ง ที่ทางช่อง 3 หลังจากนั้นผ่านไป 2 สัปดาห์ เบลล่าก็ได้รับทราบว่า เธอผ่านการแคสติ้งเป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 3 ได้เซ็นต์สัญญาเป็นนักแสดงกับช่อง 3 เป็นเวลา 5 ปี แต่ใช่ว่าพอเซ็นต์สัญญาแล้วเบลล่าจะได้มาเล่นละครเลย นับแต่เซ็นสัญญาเบลล่าต้องเรียนการแสดงที่ช่อง 3 พระรามสี่ก่อน จนกว่าจะมีงานเข้ามา เบลล่าต้องเดินทางจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต มาเรียนแอคติ้ง ที่ช่อง 3 พระรามสี่ เกือบทุกวัน ไปกลับรังสิต - พระรามสี่ แบบนี้ เป็นเวลาครึ่งปีเต็มๆ   จนกระทั่ง คุณปิ่น – ณัฎฐนันท์ ฉวีวงศ์ บอสใหญ่แห่งค่ายทีวีซีน ได้ติดต่อให้เบลล่า - ราณี แคนเปนมาเล่นละครเรื่อง รอยมาร ซึ่งถือว่าเป็นละครเรื่องแรกของเบลล่าหลังจากฝีกฝนการแสดงกับครูเงาะ - รสสุคนธ์ กองเกตุ มานานถึง 6 เดือนเต็ม แต่กับละครเรื่องแรกเบลล่าไม่ได้มารับบทนางเอก เธอได้รับบทร้าย มี มาร์คกี้ - ราศี บาเลนซิเอก้า เป็นนางเอก บอย – ปกรณ์  ฉัตรบริรักษ์ เป็นพระเอก ถึงเบลล่าจะไม่ได้รับบทนางเอก แต่บทบาทของเธอในละครเรื่อง รอยมาร บทของเธอก็ตีคู่กับนางเอกโดยตลอด จนจบเรื่อง  ในด้านการเรียนการแสดงครูเงาะคืออาจารย์สอนการแสดง แต่สำหรับในการเริ่มต้นงานการแสดงแล้ว บอย – ปกรณ์ คืออาจารย์สอนการแสดงหน้างานที่ดีของเบลล่า บอยสอนให้เบลล่าอย่าซีเรียสกับบทบาทที่จะแสดง ให้เล่นเป็นธรรมชาติของตัวเรา ตอนนั้นเบลล่ายอมรับว่าตื่นเต้นมาก ก่อนที่จะเข้าสู่วงการแสดงเบลล่าเคยคิดว่าการแสดงไม่น่าจะใช่เรื่องยาก แต่พอมาสัมผัสเข้าจริง ๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย   ปีต่อมาปี พ.ศ.2555 เบลล่าก็ได้เล่นละครเรื่อง ตะวันยอดรัก เรื่องที่สองเบลล่าก็ยังไม่ได้รับบทนางเอกเต็มตัวเช่นเคย แต่บทก็เสมอกับนางเอก เบลล่าเริ่มได้ไปชิมรางการแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกในเรื่อง มึงกู เพื่อนกันจนวันตาย เรื่องนี้เบลล่ารับบทนางเอกของเรื่อง แต่ภาพยนตร์เรื่องแรกของเบลล่า ไม่ดังเปรี้ยงปร้าง หนังไม่ทำเงิน สุดท้ายภาพยนตร์เรื่องแรกก็ไม่ได้สร้างชื่อให้กับเบลล่าเลย อีกเรื่องที่เบลล่ารับแสดงคือเรื่อง ปิติภูมิพรหมแดนแห่งรัก เรื่องนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เบลล่าได้เจอกับ เวีย - ศุกลวัฒน์ คณารศ นี่เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง เบลล่า กับ เวียร์ เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความรักต่างช่อง หลังถ่ายทำเสร็จ สุดท้ายภาพยนตร์เรื่อง ปิติภูมิพรหมแดนแห
เบลล่า - ราณี แคมเปน นางเอกลูกครึ่ง ผู้สู้ชีวิตเพื่อคนในครอบครัว (ตอนที่ 2) ระหว่างที่ เบลล่า - ราณี แคมเปน เรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 ครอบครัวแคมเปน ก็ยังอยู่ดี มีความสุข โรงเรียนสอนภาษาของคุณพ่อเบลล่าก็ยังไปได้ด้วยดี กระทั่งมาตอนที่เบลล่าเรียนอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก็เกิดเหตุประเทศไทยเข้าสู่วิกฤตการณ์ฟองสบู่ เศรษฐกิจถดถอย ธุรกิจต่างๆในประเทศไทยทยอยปิดตัวลง จากกำลังซื้อขาดสภาพคล่อง ผลกระทบตรงนี้ ส่งมาถึงโรงเรียนสอนภาษาของคุณพ่อเบลล่าด้วย ที่ไม่มีนักเรียนมาเรียน ทำให้ครอบครัวแคมเปน ขาดสภาพคล่อง คุณแม่ของเบลล่าต้องออกไปทำงานเป็นแม่บ้านเพื่อหาเงินเข้าบ้าน จากที่มีกินมีใช้ ทุกอย่างกลับปรับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เบลล่าได้เห็นใบหน้าที่เคร่งเคลียดของพ่อและแม่ กับค่าใช้จ่ายที่มากกว่ารายรับ ครอบครัวต้องมัธยัสถ์ เบลล่าเห็นแบบนั้นเลยตัดสินใจว่าจะไปหางานพาร์ทไทม์ ทำในช่วงเว้นว่างจากการเรียน และช่วงวันหยุดกับช่วงปิดเทอม เบลล่าหารายได้ส่วนหนึ่งจะมาช่วยทางบ้าน แต่แม่ก็ให้เบลล่าเก็บเงินไว้ใช้จ่ายเอง แม้เงินที่ได้มาจากการทำงาน เบลล่าจะไม่ได้จุนเจือทางบ้านมากนัก เพราะคุณแม่ให้เบลล่าเก็บไว้ใช้ส่วนตัวเอง การมีเงินเป็นของตัวเอง ก็เป็นส่วนที่ช่วยทางบ้าน คือพ่อแม่ก็ไม่ต้องลำบากกับการหาเงินมาให้ลูกเป็นค่าใช้จ่าย ในการไปโรงเรียน หรือซื้ออุปกรณ์การเรียน เบลล่าไปทำงานเสิร์ฟอาหารที่ในห้างสรรพสินค้า ไปทำงานที่ร้านอาหารซเวนเซ่น ซึ่งเป็นร้านขายไอศกรีม ต่อมาเมื่อเรียนจบจากโรงเรียนสารวิทยา เบลล่า - ราณี แคมเปน ก็เรียนต่อในระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ในคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ภาควิชา วิทยุและโทรทัศน์ เบลล่ายังคงเรียนไปทำงานไป เพราะช่วงที่อยู่ในมหาวิทยาลัย เบลล่าเป็นดรัมเมเยอร์ของทางมหาวิทยาลัย เงินจากการทำงานเบลล่าก็ได้นำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการตัดชุดดรัมเมเยอร์ อีกทั้งเบลล่ายังเอาเงินที่ได้จากการทำงาน มาดูแลตัวเอง โดยเบลล่าหวังว่าจะสามารถต่อยอดการทำงาน ได้ทำงานในสายบันเทิง เพื่อเพิ่มรายได้มาช่วยทางบ้านมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ แล้วสิ่งที่เบลล่าคาดหวังก็เกิดผลเอาในตอนที่เบลล่าเรียนปีสอง ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อเบลล่าได้มีโอกาสไปแคสงานถ่ายโฆษณา แล้วได้เล่นโฆษณา งานแรกๆของเบลล่า คืองานโฆษณา จากงานโฆษณาที่ออกไป พอดีกับตอนนั้นทางผู้ใหญ่ของทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้เห็นก็เลยติดต่อให้เบลล่ามาลองแคสดู เบลล่าไปแคสติ้ง ที่ทางช่อง 3 หลังจากนั้นผ่านไป 2 สัปดาห์ เบลล่าก็ได้รับทราบว่า เธอผ่านการแคสติ้งเป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 3 ได้เซ็นต์สัญญาเป็นนักแสดงกับช่อง 3 เป็นเวลา 5 ปี แต่ใช่ว่าพอเซ็นต์สัญญาแล้วเบลล่าจะได้มาเล่นละครเลย นับแต่เซ็นสัญญาเบลล่าต้องเรียนการแสดงที่ช่อง 3 พระรามสี่ก่อน จนกว่าจะมีงานเข้ามา เบลล่าต้องเดินทางจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต มาเรียนแอคติ้ง ที่ช่อง 3 พระรามสี่ เกือบทุกวัน ไปกลับรังสิต - พระรามสี่ แบบนี้ เป็นเวลาครึ่งปีเต็มๆ จนกระทั่ง คุณปิ่น – ณัฎฐนันท์ ฉวีวงศ์ บอสใหญ่แห่งค่ายทีวีซีน ได้ติดต่อให้เบลล่า - ราณี แคนเปนมาเล่นละครเรื่อง รอยมาร ซึ่งถือว่าเป็นละครเรื่องแรกของเบลล่าหลังจากฝีกฝนการแสดงกับครูเงาะ - รสสุคนธ์ กองเกตุ มานานถึง 6 เดือนเต็ม แต่กับละครเรื่องแรกเบลล่าไม่ได้มารับบทนางเอก เธอได้รับบทร้าย มี มาร์คกี้ - ราศี บาเลนซิเอก้า เป็นนางเอก บอย – ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ เป็นพระเอก ถึงเบลล่าจะไม่ได้รับบทนางเอก แต่บทบาทของเธอในละครเรื่อง รอยมาร บทของเธอก็ตีคู่กับนางเอกโดยตลอด จนจบเรื่อง ในด้านการเรียนการแสดงครูเงาะคืออาจารย์สอนการแสดง แต่สำหรับในการเริ่มต้นงานการแสดงแล้ว บอย – ปกรณ์ คืออาจารย์สอนการแสดงหน้างานที่ดีของเบลล่า บอยสอนให้เบลล่าอย่าซีเรียสกับบทบาทที่จะแสดง ให้เล่นเป็นธรรมชาติของตัวเรา ตอนนั้นเบลล่ายอมรับว่าตื่นเต้นมาก ก่อนที่จะเข้าสู่วงการแสดงเบลล่าเคยคิดว่าการแสดงไม่น่าจะใช่เรื่องยาก แต่พอมาสัมผัสเข้าจริง ๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ปีต่อมาปี พ.ศ.2555 เบลล่าก็ได้เล่นละครเรื่อง ตะวันยอดรัก เรื่องที่สองเบลล่าก็ยังไม่ได้รับบทนางเอกเต็มตัวเช่นเคย แต่บทก็เสมอกับนางเอก เบลล่าเริ่มได้ไปชิมรางการแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกในเรื่อง มึงกู เพื่อนกันจนวันตาย เรื่องนี้เบลล่ารับบทนางเอกของเรื่อง แต่ภาพยนตร์เรื่องแรกของเบลล่า ไม่ดังเปรี้ยงปร้าง หนังไม่ทำเงิน สุดท้ายภาพยนตร์เรื่องแรกก็ไม่ได้สร้างชื่อให้กับเบลล่าเลย อีกเรื่องที่เบลล่ารับแสดงคือเรื่อง ปิติภูมิพรหมแดนแห่งรัก เรื่องนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เบลล่าได้เจอกับ เวีย - ศุกลวัฒน์ คณารศ นี่เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง เบลล่า กับ เวียร์ เป็นจุดเริ่มต้นแห่งความรักต่างช่อง หลังถ่ายทำเสร็จ สุดท้ายภาพยนตร์เรื่อง ปิติภูมิพรหมแดนแห

About