@_djjammy_:

DJ Jammy
DJ Jammy
Open In TikTok:
Region: GB
Saturday 13 July 2024 01:48:37 GMT
2852
350
2
6

Music

Download

Comments

_.harry_d
HARRY D 🥁💿 :
🔥🔥🔥🔥🔥
2024-07-13 07:05:17
1
jimmysharry0
Jimmy :
Good job bro
2024-07-13 06:06:41
1
To see more videos from user @_djjammy_, please go to the Tikwm homepage.

Other Videos

โครงการ “คนละครึ่งพลัส” เป็นหนึ่งในโครงการหลักที่รัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำมาปัดฝุ่นอีกครั้งเพื่อแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน ลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน หวังสร้างแรงจูงใจในการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ           โดยนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กลุ่มแรกที่จะได้ใช้จ่ายเงินกับโครงการนี้คือ กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13 ล้านคน จะจ่ายเป็นวงเงินรวม 2,000 บาท ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า หลังจากกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว จะเป็นกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี จำนวน 9 ล้านคน คนละ 2,000 บาท จ่ายได้วันละไม่เกิน 200 บาท และผู้ที่อยู่ในระบบภาษี จำนวน 11 ล้านคน คนละ 2,400 บาท จ่ายได้วันละไม่เกิน 200 บาท จะเริ่มให้ลงทะเบียนในเดือนตุลาคม 2568และใช้จ่ายได้ในเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2568 ซึ่งผู้มีสิทธิ์ต้องมีอายุ 16 ปีขึ้นไป และใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” รายละเอียด          (26 ก.ย. 68) หลังจากที่นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ว่า ขณะนี้งบประมาณปี 2568 น่าจะเหลืออยู่ประมาณกว่า 60,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประมาณกว่า 20,000 ล้านบาท โดยจะใช้งบนี้ไปดำเนินโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ซึ่งจะให้กลุ่มที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก่อน จำนวน 13 ล้านคน วงเงินประมาณกว่า 22,000 ล้านบาท เบื้องต้นจะทยอยให้ทุกกลุ่ม หากใครที่ยังไม่เคยลงทะเบียน ต้องลงทะเบียนใหม่ โดยโครงการคนละครึ่งจะใช้งบประมาณที่เหลือของปี 2568 และงบประมาณปี 2569 อีกประมาณ 25,000 ล้านบาทเพิ่มเติม  ทางด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า นโยบาย “คนละครึ่งพลัส” ที่จะเริ่มต้นเดือนตุลาคมนี้ ผู้มีสิทธิ์ต้องอายุ 16 ปีขึ้นไป โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ 1. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13 ล้านสิทธิ์ รัฐบาลจะเติมเงินให้อีก 1,700 บาท ซึ่งจากเดิมให้อยู่แล้ว 300 บาท แต่เติมเพิ่มอีก 1,700 บาท รวมจะได้เงินทั้งหมด 2,000 บาท ทั้งนี้ จะเติมให้ครั้งเดียวเท่านั้น ใช้ได้ 2 เดือน ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน – ธันวาคม 2568 2. ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี จำนวน 9 ล้านคน คนละครึ่ง 50:50 จะได้เงินคนละ 2,000 บาท จ่ายได้วันละไม่เกิน 200 บาท ใช้ได้ 2 เดือน ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน – ธันวาคม 2568 3. ผู้ที่อยู่ในระบบภาษี จำนวน 11 ล้านคน คนละครึ่ง 50:50 จะได้เงินคนละ 2,400 บาท จ่ายได้วันละไม่เกิน 200 บาท ใช้ได้ 2 เดือน คือ ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน – ธันวาคม 2568 วิธีลงทะเบียน “คนละครึ่งพลัส” ประชาชนสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ 1. เว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com (รอเปิดใช้งาน)     - กดลงทะเบียนรับสิทธิ์สำหรับประชาชน     - กรอกข้อมูลส่วนบุคคล และเบอร์โทรศัพท์     - รอรับ SMS ยืนยันการลงทะเบียนภายใน 3 วัน 2. ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”      - ต้องผูกกับกระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ G-Wallet (กดแถบโครงการคนละครึ่ง) เพื่อยืนยันตัวตนและรับสิทธิ์     - ผู้ใช้จะต้องเติมเงินเข้ากระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ (G-Wallet) โดยสามารถเติมได้ผ่าน 3 ช่องทาง คือ 1. Mobile Banking 2. QR Code PromptPay 3. ตู้ ATM     - เมื่อเติมเงินเข้า G-Wallet แล้ว ในขั้นตอนการชำระเงิน ผู้ได้รับสิทธิ์จะต้องเข้าแอปฯ เป๋าตัง เข้าเมนูคนละครึ่ง จากนั้นกดปุ่มสแกน QR Code เพื่อใช้สิทธิ์ จากนั้นยืนยันการชำระเงิน
โครงการ “คนละครึ่งพลัส” เป็นหนึ่งในโครงการหลักที่รัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำมาปัดฝุ่นอีกครั้งเพื่อแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน ลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน หวังสร้างแรงจูงใจในการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ โดยนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กลุ่มแรกที่จะได้ใช้จ่ายเงินกับโครงการนี้คือ กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13 ล้านคน จะจ่ายเป็นวงเงินรวม 2,000 บาท ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า หลังจากกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว จะเป็นกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี จำนวน 9 ล้านคน คนละ 2,000 บาท จ่ายได้วันละไม่เกิน 200 บาท และผู้ที่อยู่ในระบบภาษี จำนวน 11 ล้านคน คนละ 2,400 บาท จ่ายได้วันละไม่เกิน 200 บาท จะเริ่มให้ลงทะเบียนในเดือนตุลาคม 2568และใช้จ่ายได้ในเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2568 ซึ่งผู้มีสิทธิ์ต้องมีอายุ 16 ปีขึ้นไป และใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” รายละเอียด (26 ก.ย. 68) หลังจากที่นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ว่า ขณะนี้งบประมาณปี 2568 น่าจะเหลืออยู่ประมาณกว่า 60,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประมาณกว่า 20,000 ล้านบาท โดยจะใช้งบนี้ไปดำเนินโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ซึ่งจะให้กลุ่มที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก่อน จำนวน 13 ล้านคน วงเงินประมาณกว่า 22,000 ล้านบาท เบื้องต้นจะทยอยให้ทุกกลุ่ม หากใครที่ยังไม่เคยลงทะเบียน ต้องลงทะเบียนใหม่ โดยโครงการคนละครึ่งจะใช้งบประมาณที่เหลือของปี 2568 และงบประมาณปี 2569 อีกประมาณ 25,000 ล้านบาทเพิ่มเติม ทางด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า นโยบาย “คนละครึ่งพลัส” ที่จะเริ่มต้นเดือนตุลาคมนี้ ผู้มีสิทธิ์ต้องอายุ 16 ปีขึ้นไป โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ 1. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13 ล้านสิทธิ์ รัฐบาลจะเติมเงินให้อีก 1,700 บาท ซึ่งจากเดิมให้อยู่แล้ว 300 บาท แต่เติมเพิ่มอีก 1,700 บาท รวมจะได้เงินทั้งหมด 2,000 บาท ทั้งนี้ จะเติมให้ครั้งเดียวเท่านั้น ใช้ได้ 2 เดือน ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน – ธันวาคม 2568 2. ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี จำนวน 9 ล้านคน คนละครึ่ง 50:50 จะได้เงินคนละ 2,000 บาท จ่ายได้วันละไม่เกิน 200 บาท ใช้ได้ 2 เดือน ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน – ธันวาคม 2568 3. ผู้ที่อยู่ในระบบภาษี จำนวน 11 ล้านคน คนละครึ่ง 50:50 จะได้เงินคนละ 2,400 บาท จ่ายได้วันละไม่เกิน 200 บาท ใช้ได้ 2 เดือน คือ ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน – ธันวาคม 2568 วิธีลงทะเบียน “คนละครึ่งพลัส” ประชาชนสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ 1. เว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com (รอเปิดใช้งาน) - กดลงทะเบียนรับสิทธิ์สำหรับประชาชน - กรอกข้อมูลส่วนบุคคล และเบอร์โทรศัพท์ - รอรับ SMS ยืนยันการลงทะเบียนภายใน 3 วัน 2. ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” - ต้องผูกกับกระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ G-Wallet (กดแถบโครงการคนละครึ่ง) เพื่อยืนยันตัวตนและรับสิทธิ์ - ผู้ใช้จะต้องเติมเงินเข้ากระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ (G-Wallet) โดยสามารถเติมได้ผ่าน 3 ช่องทาง คือ 1. Mobile Banking 2. QR Code PromptPay 3. ตู้ ATM - เมื่อเติมเงินเข้า G-Wallet แล้ว ในขั้นตอนการชำระเงิน ผู้ได้รับสิทธิ์จะต้องเข้าแอปฯ เป๋าตัง เข้าเมนูคนละครึ่ง จากนั้นกดปุ่มสแกน QR Code เพื่อใช้สิทธิ์ จากนั้นยืนยันการชำระเงิน

About