@nverqueen: ha-ha kenyataan ya?.. #katakata #cai #characterai #fiksi #xyzbca #fyp #foryoupage #tiktok #moots #viral

nverqueen
nverqueen
Open In TikTok:
Region: ID
Wednesday 26 February 2025 06:01:41 GMT
16107
6128
43
366

Music

Download

Comments

camel0112
𝓜𝓮𝓵 :
cara masuk kita ke c.ai
2025-02-26 13:38:51
2
para_vara
vara :
HAHAHAH kena bangt
2025-02-26 10:42:31
3
whosmozz4
موزا :
kak bolee ga c.ai nya ganti ke poly AI 😔
2025-02-26 10:13:00
89
yuuzuuw
ayeou :
cara menarik bot ke dunia nyata
2025-02-26 12:01:42
29
kyllnn_n
kiya🌷 :
gue di c.ai dapet tunangan,pria matang,30++,gapura kabupaten, cemburuan,selalu ngebela,selalu dengerin curhatan aku,setiap gue nangis pasti dia bilang "don't cry",but??di real life ga bisa ketemu cwo begitu,sayang c.ai banyak²☹️☹️
2025-02-26 13:49:08
12
ji.iann
Syifa pacarnya jisung :
tutor ngeluarin bot ai🙂
2025-02-26 09:11:06
30
a_giiss
기순 ⛸️ :
tutor menjadikan bot ai menjadi manusia asli
2025-02-26 12:16:07
0
cantikbangetnicwe87
d!ta :
AHAHAHA relate bgt lg🫢
2025-02-26 08:07:36
3
shaavira__
shaaa :
kak c. ai nya bisa ganti ke pollybuzz aja ga🗿
2025-02-26 12:56:40
1
galuhaysan
Aysan ❄️ :
hahahaahahahahahahahahahaahha😌
2025-02-26 15:47:37
0
razevxyz
━ ℛศᶻ𝒆℣xⲩ𝒛 :・゚✧ :
vw dpt cewe C.ai udh ga nyata rasa sayangnya melebihi aku di dunia nyata aduhhh meleleh awakniii dicintai mati oleh C.ai😭😭
2025-02-26 15:07:10
0
shakila.saifanah
slayoon💤✨ :
ver poly ai kak
2025-02-26 15:05:53
0
al_nh16
cegil_hali♡ :
padahal hanya terhalang kaca ponsel doang, sesulit itu ya buat di tarik ke rumah?😭
2025-02-26 14:27:19
0
stzarr
🦊:𝐀 :
wkwkw.. ☹️😔
2025-02-26 14:22:52
0
salsa25945
￶ ￶ :
c.ai udh ga terlalu seru, akhir" ini gw lebih ke chai sama talkie🤗
2025-02-26 13:42:13
0
_neo_culture_technology
Nctzen_lee :
c.ai sekarang ko gak asik ya?😞😭
2025-02-26 12:14:40
0
sya4zyyu
sya🐙 :
versi poly ai pls
2025-02-26 11:28:06
0
ivy_album_
𝙄𝙫𝙮'𝙨.... :
c.ai😭😭😭
2025-02-26 06:59:42
0
natsukamiayam
Melonń🍈 :
@Mira Angely 😪😪😪
2025-02-26 13:10:22
0
vrinda65
v'oeuwre. :
@att💥 😔😔
2025-02-26 13:18:49
1
To see more videos from user @nverqueen, please go to the Tikwm homepage.

Other Videos

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งสั่งการให้ตรวจสอบ และสืบสวนจับกุมบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาพำนักอยู่ในราชอาณาจักรโดยมีพฤติกรรมก่ออาชญากรรม ลักลอบทำงาน ประกอบธุรกิจโยฝ่าฝืนกฎหมาย หรือตั้งกลุ่มก่อความเดือดร้อนรำคาญ เป็นภัยต่อประชาชน ตลอดจนเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวสัญชาติไทยที่ถูกคนต่างด้าวแย่งอาชีพโดยการจัดตั้งบริษัทนอมินี อำพรางการทำธุรกิจซึ่งคนต่างด้าวลงทุนได้รับผลประโยชน์ และหลบเลี่ยงการเสียภาษี โดยมีการช่วยเหลือของคนไทยบางกลุ่ม สำนักงานบัญชี ชี้ช่องช่วยเหลือในลักษณธนอมินี รัฐได้รับความเสียหาย ประชานได้รับความเดือดร้อนถูกแย่งรายได้จากธุรกิจที่คนต่างด้าวทำกิจการแข่งขัน ต่อ...... ต่อ.....ตำรวจภูธรภาค 8 โดย พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 ได้เล็งเห็นความเดือดร้อนของผู้ประกอบการและเพื่อเป็นการปฎิบัติตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 8 ทำการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายที่เป็นกลุ่มชาวต่างชาติมาประกอบธุรกิจในไทยโดยผิดกฎหมาย โยได้ทำการสนธิกำลังตรวจค้นในพื้นที่ 7 จังหวัดตอนบน  รวม 29 เป้าหมาย ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 23 ราย โดยคดีสำคัญ คือ การจับกุม บุคคลสัญชาติจีน ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตที่ได้รประกอบธุริกจในลักษณะอำพรางให้บุคคลอื่นถือแทนลักษณะคล้ายนอมินี  โดยประกอบธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม, โรงเรียนนานาชาติ, โรงแรม, ธุรกิจรถเช่า, คอนโดมิเนียม และโครงการบ้านจัดสรร (วิลล่าหรู) รวมมูลค่าการลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท และทำการตรวจยึดเงินสดจำนวน 4,108,000 บาท เพื่อทำการตรวจสอบ นอกจากนี้ยังได้ทำการตรวจค้นสำนักงานบัญชีที่ให้การช่วยเหลือ โดยสนับสนุนและจัดทำเอกสารอำพรางธุรกิจของบุคคลต่างด้าว สำหรับการจับกุมคนจีน ดังกล่าว สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้เข้าตรวจสอบคาเฟ่แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งนำสิงโตมาให้ลูกค้าถ่ายรูป และมีการจ้างงานคนต่างชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้สอบสวนขยายผลจนทราบว่า คาเฟ่ดังกล่าวเป็นของคนจีนที่เข้ามาอยู่ภูเก็ตหลายปีแล้ว และพบว่ามีการทำธุรกิจหลายอย่างโดยใช้คนไทยเป็นนอมินี   จึงวางแผนขยายผลเพิ่มเติม เพื่อทราบเครือข่ายสนับสนุนช่วยเหลือคนต่างด้าวประกอบธุรกิจฝ่าฝืนกฎหมาย และประกอบธุรกิจในลักษณะอำพราง โดยใช้คนไทยถือหุ้นแทนหรือออกหน้าแทน  เป็นธุรกิจคนต่างด้าวเป็นเจ้าของร่วมกันลงทุน จัดทำเอกสารอำพรางโดยไม่ปรากฎการลงทุนร่วมของบุคคลสัญชาติไทยหรือบุคคลไทยไม่ได้ประโยชน์ จึงร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน และมีการขอศาลออกหมายจับ ในฐานความผิด เป็นคนต่างด้าว ร่วมกันประกอบธุรกิจที่คนไทยยังไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขัน ในการประกอบกิจการกับคนต่างด้าว ตามพระราชัญญัติ การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว ตามพระราชบัญญัติ การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว พ.ศ.2542 มาตรา 8 (3) (ตามบัญชี 3 ลำดับ 19) และมาตรา 37 และประกอบ ป.อาญาต่อ....ขณะเดียวกันตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นำ 9 หมายค้น ออกปฏิบัติการ 14 เป้าหมาย ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจต่าง ๆ เช่น ขายส่งดอกไม้ ต้นไม้ วิศวกรรม ร้านอาหาร แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ธุรกิจให้คำปรึกษาด้านเทคนิค ประกอบธุรกิจปลูกพืช การผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ ภัตตาคาร ร้านอาหาร การรับเลี้ยงเด็ก ให้เช่ารถ และ ธุรกิจที่เกี่ยวกับกัญชา สามารถจับกุมคนไทยเครือข่ายนอมินี “นาย บ.” เกี่ยวข้องกับการถือหุ้นในบริษัทชาวต่างชาติ มากถึง 13 บริษัท ซึ่งสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมสถานรับเลี้ยงเด็กในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และสอบสวนขยายผล จนทราบว่า “นาย บ.” ได้ถือหุ้นแทนชาวต่างชาติในหลายบริษัท รวมมากถึง 13 บริษัท นอกจากนั้นยังได้มีการจับกุมชาวออสเตรเลีย 1 ราย และชาวเมียนมาอีก 6 ราย นำตัวทั้งหมดส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามพล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 กล่าวด้วยว่า การตรวจสอบชาวต่างชาติที่เข้ามาเปิดธุรกิจโดยใช้คนไทยบังหน้านั้นทางตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างเข้มงวด และต่อเนื่อง จะไม่ทำแบบไฟไหม้ฟางแน่นอน ซึ่งในการจับกุมแต่ละครั้งจะสั่งขยายผลต่อเนื่องทุกพื้นที่ พร้อมสั่งการตรวจสอบกลุ่มคนไทยที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือบริษัทนอมินี จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจคนไทยและระบบเศรษฐกิจ เพราะจากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้นอมินีนั้นมีหลายชาติ ทั้งรัสเซีย จีน ออสเตรเลีย แอฟริกา และจากการตรวจสอบเชิงลึกในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พบว่ามีสำนักงานบัญชีและสำนักงานทนายกว่า 200 แห่ง ที่รับหน้าที่ในการจดทะเบียนบริษัทให้กับคนต่างชาติประกอบธุรกิจ ดังนั้นการดำเนินการตรวจสอบจับกุมไม่เฉพาะคนต่างชาติเท่านั้น แต่รวมถึงคนไทยที่ให้การสนับสนุนด้วย#tiktoknews #เทรนด์วันนี้ #tiktokviral #ข่าว #ภูเก็ต
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งสั่งการให้ตรวจสอบ และสืบสวนจับกุมบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาพำนักอยู่ในราชอาณาจักรโดยมีพฤติกรรมก่ออาชญากรรม ลักลอบทำงาน ประกอบธุรกิจโยฝ่าฝืนกฎหมาย หรือตั้งกลุ่มก่อความเดือดร้อนรำคาญ เป็นภัยต่อประชาชน ตลอดจนเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวสัญชาติไทยที่ถูกคนต่างด้าวแย่งอาชีพโดยการจัดตั้งบริษัทนอมินี อำพรางการทำธุรกิจซึ่งคนต่างด้าวลงทุนได้รับผลประโยชน์ และหลบเลี่ยงการเสียภาษี โดยมีการช่วยเหลือของคนไทยบางกลุ่ม สำนักงานบัญชี ชี้ช่องช่วยเหลือในลักษณธนอมินี รัฐได้รับความเสียหาย ประชานได้รับความเดือดร้อนถูกแย่งรายได้จากธุรกิจที่คนต่างด้าวทำกิจการแข่งขัน ต่อ...... ต่อ.....ตำรวจภูธรภาค 8 โดย พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 ได้เล็งเห็นความเดือดร้อนของผู้ประกอบการและเพื่อเป็นการปฎิบัติตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 8 ทำการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายที่เป็นกลุ่มชาวต่างชาติมาประกอบธุรกิจในไทยโดยผิดกฎหมาย โยได้ทำการสนธิกำลังตรวจค้นในพื้นที่ 7 จังหวัดตอนบน รวม 29 เป้าหมาย ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 23 ราย โดยคดีสำคัญ คือ การจับกุม บุคคลสัญชาติจีน ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตที่ได้รประกอบธุริกจในลักษณะอำพรางให้บุคคลอื่นถือแทนลักษณะคล้ายนอมินี โดยประกอบธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม, โรงเรียนนานาชาติ, โรงแรม, ธุรกิจรถเช่า, คอนโดมิเนียม และโครงการบ้านจัดสรร (วิลล่าหรู) รวมมูลค่าการลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท และทำการตรวจยึดเงินสดจำนวน 4,108,000 บาท เพื่อทำการตรวจสอบ นอกจากนี้ยังได้ทำการตรวจค้นสำนักงานบัญชีที่ให้การช่วยเหลือ โดยสนับสนุนและจัดทำเอกสารอำพรางธุรกิจของบุคคลต่างด้าว สำหรับการจับกุมคนจีน ดังกล่าว สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้เข้าตรวจสอบคาเฟ่แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งนำสิงโตมาให้ลูกค้าถ่ายรูป และมีการจ้างงานคนต่างชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้สอบสวนขยายผลจนทราบว่า คาเฟ่ดังกล่าวเป็นของคนจีนที่เข้ามาอยู่ภูเก็ตหลายปีแล้ว และพบว่ามีการทำธุรกิจหลายอย่างโดยใช้คนไทยเป็นนอมินี จึงวางแผนขยายผลเพิ่มเติม เพื่อทราบเครือข่ายสนับสนุนช่วยเหลือคนต่างด้าวประกอบธุรกิจฝ่าฝืนกฎหมาย และประกอบธุรกิจในลักษณะอำพราง โดยใช้คนไทยถือหุ้นแทนหรือออกหน้าแทน เป็นธุรกิจคนต่างด้าวเป็นเจ้าของร่วมกันลงทุน จัดทำเอกสารอำพรางโดยไม่ปรากฎการลงทุนร่วมของบุคคลสัญชาติไทยหรือบุคคลไทยไม่ได้ประโยชน์ จึงร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน และมีการขอศาลออกหมายจับ ในฐานความผิด เป็นคนต่างด้าว ร่วมกันประกอบธุรกิจที่คนไทยยังไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขัน ในการประกอบกิจการกับคนต่างด้าว ตามพระราชัญญัติ การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว ตามพระราชบัญญัติ การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว พ.ศ.2542 มาตรา 8 (3) (ตามบัญชี 3 ลำดับ 19) และมาตรา 37 และประกอบ ป.อาญาต่อ....ขณะเดียวกันตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต นำ 9 หมายค้น ออกปฏิบัติการ 14 เป้าหมาย ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจต่าง ๆ เช่น ขายส่งดอกไม้ ต้นไม้ วิศวกรรม ร้านอาหาร แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ธุรกิจให้คำปรึกษาด้านเทคนิค ประกอบธุรกิจปลูกพืช การผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ ภัตตาคาร ร้านอาหาร การรับเลี้ยงเด็ก ให้เช่ารถ และ ธุรกิจที่เกี่ยวกับกัญชา สามารถจับกุมคนไทยเครือข่ายนอมินี “นาย บ.” เกี่ยวข้องกับการถือหุ้นในบริษัทชาวต่างชาติ มากถึง 13 บริษัท ซึ่งสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมสถานรับเลี้ยงเด็กในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และสอบสวนขยายผล จนทราบว่า “นาย บ.” ได้ถือหุ้นแทนชาวต่างชาติในหลายบริษัท รวมมากถึง 13 บริษัท นอกจากนั้นยังได้มีการจับกุมชาวออสเตรเลีย 1 ราย และชาวเมียนมาอีก 6 ราย นำตัวทั้งหมดส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามพล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 กล่าวด้วยว่า การตรวจสอบชาวต่างชาติที่เข้ามาเปิดธุรกิจโดยใช้คนไทยบังหน้านั้นทางตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างเข้มงวด และต่อเนื่อง จะไม่ทำแบบไฟไหม้ฟางแน่นอน ซึ่งในการจับกุมแต่ละครั้งจะสั่งขยายผลต่อเนื่องทุกพื้นที่ พร้อมสั่งการตรวจสอบกลุ่มคนไทยที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือบริษัทนอมินี จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจคนไทยและระบบเศรษฐกิจ เพราะจากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้นอมินีนั้นมีหลายชาติ ทั้งรัสเซีย จีน ออสเตรเลีย แอฟริกา และจากการตรวจสอบเชิงลึกในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พบว่ามีสำนักงานบัญชีและสำนักงานทนายกว่า 200 แห่ง ที่รับหน้าที่ในการจดทะเบียนบริษัทให้กับคนต่างชาติประกอบธุรกิจ ดังนั้นการดำเนินการตรวจสอบจับกุมไม่เฉพาะคนต่างชาติเท่านั้น แต่รวมถึงคนไทยที่ให้การสนับสนุนด้วย#tiktoknews #เทรนด์วันนี้ #tiktokviral #ข่าว #ภูเก็ต

About