@emanuelly.1001:

manu_manuzita
manu_manuzita
Open In TikTok:
Region: BR
Friday 15 August 2025 23:47:57 GMT
636
75
4
2

Music

Download

Comments

jonasmc076
jonasribeiro28 :
lindinha 😻
2025-08-16 12:07:10
0
gratido5850
Gratidão :
👏👏👏👏👏
2025-08-17 12:09:56
0
user8621241180003
enzo :
😂😂😂😂😂
2025-08-17 03:28:54
0
jose.araujo7914
Jose Araujo :
🥰🥰🥰
2025-08-16 23:54:58
0
aime_baw
amisae :
❤️❤️❤️
2025-08-15 23:49:32
0
To see more videos from user @emanuelly.1001, please go to the Tikwm homepage.

Other Videos

UPDATE: นฤมลเตรียมดัน ‘ประวัติศาสตร์-หน้าที่พลเมือง’ วิชาเอก ใช้สอบเข้า ม.1-ม.4 . วันนี้ (18 สิงหาคม) ที่โรงเรียนพะเยาวิทยาคม จังหวัดพะเยา ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.), สุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) เยี่ยมชมกิจกรรมตามหลักสูตรของโรงเรียนบ้านทุ่งหลวง เช่น การจัดการเรียนรู้เพื่ออาชีพและการมีงานทำในศตวรรษที่ 21 หลักสูตรเฮือนแก้ว นวัตกรรมเสริมสร้างศักยภาพด้านเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ PPK Studio”ตลอดจนเยี่ยมชม Best Practice โรงเรียนสังกัด สพม.พะเยา จำนวน 18 โรงเรียน  . ศ.ดร.นฤมล กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนอยากพูดคุยปัญหากับครูและนักเรียน เพื่อต้องการให้สะท้อนปัญหาการศึกษาด้านต่างๆ เพื่อให้การทำงานของ ศธ.เป็นการสะท้อนปัญหาจากระดับล่างขึ้นบน เนื่องจากตนไม่เคยเป็นครูสอนในโรงเรียนและไม่เคยเป็นผู้บริหารโรงเรียน อีกทั้งไม่เคยทำงานใน ศธ.มาก่อนจึงไม่ควรจะมาบอกว่านโยบายการศึกษาของ ศธ.จะต้องเป็นอย่างไรด้วยความต้องการของตนเอง ดังนั้นจึงต้องมาฟังนโยบายจากครูและผู้บริหารโรงเรียนที่สะท้อนกลับมายังฝ่ายบริหาร จากนั้นถึงจะมากำหนดเป็นนโยบายได้  . ทั้งนี้ ในการกำหนดนโยบายการศึกษา ก็มีหลายเรื่องที่ผู้ใหญ่ในบ้านในเมืองฝากมาให้ขับเคลื่อน โดยเฉพาะในเรื่องของวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รับโจทย์ดังกล่าวไปแล้วและก็ได้มีการดำเนินการขับเคลื่อนอยู่ในขณะนี้ . “ดิฉันอยากกำหนดให้วิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมืองเป็นวิชาเอกที่ต้องใช้สอบเข้าเรียนต่อด้วย โดยวิชาดังกล่าวจะต้องเป็นวิชาสำคัญเหมือนวิชาอื่นๆ เช่น วิชาวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เป็นต้น ดังนั้นวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมืองจะต้องไม่ใช่เป็นการสอบจบภาคการศึกษาเท่านั้น แต่จะต้องนำ วิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมืองกำหนดเป็นสัดส่วนของการสอบเข้าเรียนต่อในช่วงรอยต่อของระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ มัธยมศึกษาปีที่ 4 เพื่อให้เด็กเห็นถึงความสำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพราะประวัติศาสตร์ไทยไม่เหมือนกับชาติใดในโลกจึงอยากให้เด็กได้รู้จักรากเหง้าของระบอบประชาธิปไตยและประวัติศาสตร์เชิงลึกแบบถูกต้อง ทั้งนี้ จะเริ่มในปีการศึกษาไหนนั้น ดิฉันขอหารือกับ สพฐ.เพื่อดูระยะเวลาและความพร้อมของแต่ละโรงเรียนก่อน” ศ.ดร.นฤมล กล่าว . ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า ส่วนนโยบายลดภาระครูก็เป็นอีกนโยบายที่ตนฝากให้ผู้บริหาร ศธ.ร่วมขับเคลื่อน เพราะครูและบุคลากรทางการศึกษาจะต้องมีคุณภาพชีวิตที่มีความสุขด้วยเช่นกันไม่ว่าจะเป็นการปรับอัตรากำลังครูเกินเกณฑ์ที่เป็นอัตราเกษียณอายุราชการให้ปรับมาเป็นสายสนับสนุน ซึ่งที่ผ่านมามีการดำเนินการจัดสรรตำแหน่งดังกล่าวแล้ว 600 อัตรา โดยจัดสรรไปให้กลุ่มโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย และภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้จะได้อัตรากำลังดังกล่าวเพิ่มมากอีก 1,800 อัตรา  . ขณะเดียวกันสำหรับนโยบายการแก้ปัญหาหนี้ครูนั้น จากข้อมูลพบว่าครูมีหนี้ 1.44 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นหนี้ก้อนใหญ่ของหนี้ครัวเรือนประเทศ ศธ.จึงได้มีแนวทางตั้งสหกรณ์กลางของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ขึ้น แต่แนวทางดังกล่าวเป็นเพียงแผนแก้หนี้ครูที่ไม่ได้มีความยั่งยืน จึงต้องมีการสร้างรายได้เพิ่มเติมให้แก่ครูด้วย ซึ่งก็จะเกี่ยวข้องไปกับการขอปรับเพิ่มเงินเดือนครูที่เป็นเรื่องที่สามารถกระทำได้ยากเพราะเป็นภาระผูกพันด้านงบประมาณ  . ดังนั้นตนจึงเห็นว่าการปรับและเลื่อนวิทยฐานะครู จะเป็นการแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้อย่างยั่งยืนและสามารถทำได้จริง อีกทั้งจะทำให้ครูมีขวัญกำลังใจในการทำงานมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กำลังปรับแก้ไขเรื่องนี้อยู่ เช่น การทำวิทยฐานะครูแยกเฉพาะตามกลุ่มสายงาน หรือการนำเอาการทำวิทยฐานะผลงานเชิงประจักษ์กลับมาใช้ใหม่ เป็นต้น . Cr : TheStandardNews #การศึกษา #ประเทศไทย #รัฐมนตรี #การเมือง #รัฐบาล
UPDATE: นฤมลเตรียมดัน ‘ประวัติศาสตร์-หน้าที่พลเมือง’ วิชาเอก ใช้สอบเข้า ม.1-ม.4 . วันนี้ (18 สิงหาคม) ที่โรงเรียนพะเยาวิทยาคม จังหวัดพะเยา ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.), สุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) เยี่ยมชมกิจกรรมตามหลักสูตรของโรงเรียนบ้านทุ่งหลวง เช่น การจัดการเรียนรู้เพื่ออาชีพและการมีงานทำในศตวรรษที่ 21 หลักสูตรเฮือนแก้ว นวัตกรรมเสริมสร้างศักยภาพด้านเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ PPK Studio”ตลอดจนเยี่ยมชม Best Practice โรงเรียนสังกัด สพม.พะเยา จำนวน 18 โรงเรียน . ศ.ดร.นฤมล กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนอยากพูดคุยปัญหากับครูและนักเรียน เพื่อต้องการให้สะท้อนปัญหาการศึกษาด้านต่างๆ เพื่อให้การทำงานของ ศธ.เป็นการสะท้อนปัญหาจากระดับล่างขึ้นบน เนื่องจากตนไม่เคยเป็นครูสอนในโรงเรียนและไม่เคยเป็นผู้บริหารโรงเรียน อีกทั้งไม่เคยทำงานใน ศธ.มาก่อนจึงไม่ควรจะมาบอกว่านโยบายการศึกษาของ ศธ.จะต้องเป็นอย่างไรด้วยความต้องการของตนเอง ดังนั้นจึงต้องมาฟังนโยบายจากครูและผู้บริหารโรงเรียนที่สะท้อนกลับมายังฝ่ายบริหาร จากนั้นถึงจะมากำหนดเป็นนโยบายได้ . ทั้งนี้ ในการกำหนดนโยบายการศึกษา ก็มีหลายเรื่องที่ผู้ใหญ่ในบ้านในเมืองฝากมาให้ขับเคลื่อน โดยเฉพาะในเรื่องของวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รับโจทย์ดังกล่าวไปแล้วและก็ได้มีการดำเนินการขับเคลื่อนอยู่ในขณะนี้ . “ดิฉันอยากกำหนดให้วิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมืองเป็นวิชาเอกที่ต้องใช้สอบเข้าเรียนต่อด้วย โดยวิชาดังกล่าวจะต้องเป็นวิชาสำคัญเหมือนวิชาอื่นๆ เช่น วิชาวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เป็นต้น ดังนั้นวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมืองจะต้องไม่ใช่เป็นการสอบจบภาคการศึกษาเท่านั้น แต่จะต้องนำ วิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมืองกำหนดเป็นสัดส่วนของการสอบเข้าเรียนต่อในช่วงรอยต่อของระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ มัธยมศึกษาปีที่ 4 เพื่อให้เด็กเห็นถึงความสำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพราะประวัติศาสตร์ไทยไม่เหมือนกับชาติใดในโลกจึงอยากให้เด็กได้รู้จักรากเหง้าของระบอบประชาธิปไตยและประวัติศาสตร์เชิงลึกแบบถูกต้อง ทั้งนี้ จะเริ่มในปีการศึกษาไหนนั้น ดิฉันขอหารือกับ สพฐ.เพื่อดูระยะเวลาและความพร้อมของแต่ละโรงเรียนก่อน” ศ.ดร.นฤมล กล่าว . ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า ส่วนนโยบายลดภาระครูก็เป็นอีกนโยบายที่ตนฝากให้ผู้บริหาร ศธ.ร่วมขับเคลื่อน เพราะครูและบุคลากรทางการศึกษาจะต้องมีคุณภาพชีวิตที่มีความสุขด้วยเช่นกันไม่ว่าจะเป็นการปรับอัตรากำลังครูเกินเกณฑ์ที่เป็นอัตราเกษียณอายุราชการให้ปรับมาเป็นสายสนับสนุน ซึ่งที่ผ่านมามีการดำเนินการจัดสรรตำแหน่งดังกล่าวแล้ว 600 อัตรา โดยจัดสรรไปให้กลุ่มโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย และภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้จะได้อัตรากำลังดังกล่าวเพิ่มมากอีก 1,800 อัตรา . ขณะเดียวกันสำหรับนโยบายการแก้ปัญหาหนี้ครูนั้น จากข้อมูลพบว่าครูมีหนี้ 1.44 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นหนี้ก้อนใหญ่ของหนี้ครัวเรือนประเทศ ศธ.จึงได้มีแนวทางตั้งสหกรณ์กลางของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ขึ้น แต่แนวทางดังกล่าวเป็นเพียงแผนแก้หนี้ครูที่ไม่ได้มีความยั่งยืน จึงต้องมีการสร้างรายได้เพิ่มเติมให้แก่ครูด้วย ซึ่งก็จะเกี่ยวข้องไปกับการขอปรับเพิ่มเงินเดือนครูที่เป็นเรื่องที่สามารถกระทำได้ยากเพราะเป็นภาระผูกพันด้านงบประมาณ . ดังนั้นตนจึงเห็นว่าการปรับและเลื่อนวิทยฐานะครู จะเป็นการแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้อย่างยั่งยืนและสามารถทำได้จริง อีกทั้งจะทำให้ครูมีขวัญกำลังใจในการทำงานมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กำลังปรับแก้ไขเรื่องนี้อยู่ เช่น การทำวิทยฐานะครูแยกเฉพาะตามกลุ่มสายงาน หรือการนำเอาการทำวิทยฐานะผลงานเชิงประจักษ์กลับมาใช้ใหม่ เป็นต้น . Cr : TheStandardNews #การศึกษา #ประเทศไทย #รัฐมนตรี #การเมือง #รัฐบาล

About